อินไซด์ บางกอกพรีเมียร์ลีก

อินไซด์ บางกอกพรีเมียร์ลีก

.
“ยูโร ฟุตบอล เซ็นเตอร์” เมื่อประตู [ฟุตบอล] ถูกเปิดออก
.

ชื่อของ เอเลียส ดอเลาะ นักฟุตบอลอาชีพลูกครึ่งสวีเดน-ไทย ผู้เล่นทีมชาติไทย , ทศกร บุญเพ็ญ [ เซียน ] อดีตนักฟุตบอลอาชีพ และ ANUCHART PERCIVAL [ SAM : แซม ] ลูกครึ่งไทยอังกฤษ หากนำชื่อบุคคลทั้งสามแยกออกจากกัน แน่นอนว่า ” เอเลียส ดอเลาะ” อดีตผู้เล่นในตำแหน่งกองหลังของสโมสรฟุตบอลการท่าเรือ เอฟซี ดูจะโดดเด่นกว่า โดยกองหลังวัย 31 ปี ปัจจุบันร่วมงานอยู่กับสโมสรบาหลี ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลอาชีพในประเทศอินโดนีเซีย
.

ทว่าความน่าสนใจต่อบุคคลทั้งสาม อันได้แก่ เอเลียส ดอเลาะ , ทศกร บุญเพ็ญ และ ANUCHART PERCIVAL อยู่ที่ ต่างฝ่ายมีพื้นฐานที่เหมือนกันคือเป็นนักฟุตบอล และผ่านประสบการณ์ใช้ชีวิตอยู่กับฟุตบอลในต่างประเทศ ด้วยความเหมือนและทัศนคติที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน จึงเป็นที่มาของการร่วมกันก่อตั้ง EURO FOOTBALL CENTER [ ยูโร ฟุตบอล เซ็นเตอร์ ] เข้ามามีบทบาทอยู่กับวงการฟุตบอล ทั้งการทำหน้าที่ศูนย์ฝึกฟุตบอล อยู่ที่สนามฟุตบอลไฮบริด พัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ และการพัฒนาทีมฟุตบอลเข้าแข่งขัน กับลีกฟุตบอลสมัครเล่นกึ่งอาชีพ ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล นั่นคือ บางกอกพรีเมียร์ลีก หรือ บีพีแอล

.

แม้ว่าระยะเวลาของการก่อตั้งศูนย์ฝึกฟุตบอล EURO FOOTBALL CENTER ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของแกนหลักที่สำคัญคือ ทศกร บุญเพ็ญ และ ANUCHART PERCIVAL เพิ่งจะขึ้นสู่ปีที่ 2 แต่ก้าวย่างของความสำเร็จ ที่จุดประกายและสร้างความภาคภูมิใจในงานที่ ทศกร บุญเพ็ญ และ ANUCHART PERCIVAL ดูแล นั่นก็คือการได้ส่งต่อผลผลิตจากอคาเดมี่ ออกไปสู่โลกกว้างเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่น่าจดจำ อาทิความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับ ชนสรณ์ ไชยธรรม อายุ 15 ปี เยาวชนไทย ซึ่งผ่านการคัดเลือกจาก United We Play จนได้รับโอกาสให้ไปร่วมฝึกซ้อมกับทีมเยาวชน ของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนต็ด ที่ประเทศอังกฤษ ในเดือนธันวาคม
พร้อมกับเยาวชนของประเทศอื่นๆ
.

ขณะเดียวกันผลงานของสโมสรฟุตบอล ยูโร ฟุตบอล เซ็นเตอร์ ภายใต้ ทศกร บุญเพ็ญ และ ANUCHART PERCIVAL ก็สามารถทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ เมื่อสโมสรฟุตบอลที่ก่อตั้งและส่งเข้าแข่งขันฤดูกาลแรก กับการแข่งขันฟุตบอลสมัครเล่นกึ่งอาชีพ บางกอกพรีเมียร์ลีก ปรากฏว่า ยูโร ฟุตบอล เซ็นเตอร์ สามารถทำผลงานได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ เมื่อรั้งตำแหน่งผู้นำของดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 2024-25 ของบางกอก พรีเมียร์ลีก โดยทีมฟุตบอล ยูโร ฟุตบอล เซ็นเตอร์ ในขณะนี้รั้งตำแหน่งผู้ของตาราง จากทั้งหมด 10 ทีม ผ่านการแข่งขันไปแล้ว 12 นัด ชนะ 11 เสมอ 1 เก็บไปแล้ว 34 คะแนน นำทีมอันดับ 2 คือ โปลิศ ลาดกระบัง ที่แข่งมากกว่า คือ 14 นัด มี 29 คะแนน

.
จุดเริ่มต้นของ ยูโร ฟุตบอล เซ็นเตอร์ คือพื้นฐานที่ใกล้เคียงกันระหว่าง เอเลียส ดอเลาะ นักฟุตบอลอาชีพลูกครึ่งสวีเดน-ไทย , ทศกร บุญเพ็ญ [ เซียน ] อดีตนักฟุตบอลอาชีพ ที่เคยผ่านประสบการณ์ฟุตบอลเยาวชน เมื่อครั้งพำนักอยู่ที่ประเทศอังกฤษ และ ANUCHART PERCIVAL [ SAM : แซม ] ลูกครึ่งไทย – อังกฤษ ซึ่งมีประสบการณ์อยู่กับฟุตบอลที่อังกฤษเช่นกัน ด้วยความสนิทสนมจากการเป็นเพื่อนทำให้ทั้ง 3 คน ตัดสินใจที่จะลงทุนทำอคาเดมี่ โดยใช้ชื่อว่า ยูโร ฟุตบอล เซ็นเตอร์ เป็นการเลือกที่จะใช้จุดแข็งคือ ประสบการณ์ฟุตบอลในต่างประเทศ นำมาใช้เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาอคาเดมี่ให้เกิดความต่าง
.

ในแง่ของชั่วโมงบินต่อวงการฟุตบอล ทศกร บุญเพ็ญ ซึ่งพำนักอยู่ที่ประเทศอังกฤษกับบิดา มารดา ตั้งแต่วัยเด็กมีฝีเท้าในระดับฟุตบอลเยาวชน (ในขณะนั้น ) จนได้รับความสนใจจากทีมเยาวชนของสโมสร อาทิ เซาท์แธมป์ตัน , เชลซี , เรดดิ้ง , ฟูแล่ม กระทั่ง ทศกร หรือ เซียน ได้ไปร่วมงานกับ ทีมเยาวชนของ เลสเตอร์ ซิตี้ และเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นเต็มตัว ทศกร จึงเดินทางกลับมาที่ประเทศไทย และมีโอกาสได้ร่วมงานกับสโมสรฟุตบอลอาชีพ ทั้งอาร์มี่ ยูไนเต็ด ,ศรีสะเกษ เอฟซี , คัสตอม ลาดกระบัง ยูไนเต็ด และ สมุทรสาคร เอฟซี เป็นเวลารวม 4 ปี ในการได้อยู่กับฟุตบอลไทย อย่างไรก็ตามในเส้นทางฟุตบอลอาชีพของ ทศกร ที่ไม่สามารถพาตัวเองก้าวไปสู่จุดสูงสุด

.
ทำให้ ทศกร บุญเพ็ญ ได้เลือกที่จะสร้างความท้าทายให้กับตัวเอง
ด้วยการยุติบทบาทในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ และหันไปทำงานในฐานะโค้ชฟุตบอลให้กับโรงเรียนนานาชาติ ในเขตกรุงเทพฯ จนกลายเป็นที่มาในการตกผลึกทางความคิด ด้วยการร่วมกับเพื่อนคือ เอเลียส ดอเลาะ และ ANUCHART PERCIVAL [ SAM : แซม ] เดินหน้ากับบทบาทใหม่ ก่อตั้ง ยูโร ฟุตบอล เซ็นเตอร์ และ 2 ปี ภายใต้การทำงานของ ทศกร และ SAM ที่ใกล้ชิดอยู่กับงานภาคสนาม ก็เกิดสิ่งที่ไม่ต่างไปจากการออกดอก-ออกผล เมื่อผลงานในการพัฒนาทีมเยาวชน ประสบความสำเร็จ ในแบบที่สร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นทั้งต่อ ทศกร และ แซม ที่จะเดินหน้านำพาอคาเดมี่ให้ก้าวไปข้างหน้า โดยมี เอเลียส ดอเลาะ ร่วมสนับสนุน

.
ปีที่ 2 ของอคาเดมี่ ยูโร ฟุตบอล เซ็นเตอร์ คือ การยกระดับตัวเองไปอีกขั้น ด้วยการก่อตั้งทีมฟุตบอลที่ใช้ชื่อเดียวกัน ส่งเข้าแข่งขันลีกสมัครเล่นกึ่งอาชีพ บางกอก พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2024 – 25 และผลงานของสโมสรน้องใหม่ในเวทีการแข่งขันของ บางกอก พรีเมียร์ลีก ก็ทำผลงานได้อย่างน่าทึ่ง
เมื่อสโมสรฟุตบอลซึ่งเปิดโอกาสให้เยาวชนที่มีอายุ 15 ปี ขึ้นไป เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีม ได้โอกาสลงเล่นร่วมกับเหล่านักฟุตบอลทั้งไทยและต่างชาติ ซึ่งรวมไปถึง ทศกร และ SAM ที่กลับลงมาทำหน้าที่นักฟุตบอล ให้กับสโมสรที่ทั้งคู่มีส่วนร่วมในการก่อตั้ง และภายใต้การทำงานหนักของทุกคนภายในทีม ก็ส่งผลให้ทีมฟุตบอลน้องใหม่ทีมนี้ยึดครองจ่าฝูงของตารางได้อย่างเหนียวแน่น
.

อาจจะเร็วเกินไปหากจะสรุปว่า ยูโร ฟุตบอล เซ็นเตอร์ ประสบความสำเร็จ เพราะนี่คือ 2 ปี กับการก่อตั้งอคาเดมี่ฟุตบอล และเป็น 1 ปี สำหรับการพัฒนาทีมไปสู่สโมสรฟุตบอลสมัครเล่นกึ่งอาชีพ แต่สิ่งหนึ่งที่สามารถตอกย้ำได้ก็คือแนวทางการทำงานของอคาเดมี่แห่งนี้ แม้ว่าจะอยู่ในช่วงเริ่มต้น รวมทั้งทีมฟุตบอลที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา แต่ ยูโร ฟุตบอล เซ็นเตอร์ ได้ใช้เครื่องมือหรือปัจจัยสนับสนุนที่มีอยู่พัฒนางานในส่วนต่างๆ จนทำให้ 2 ปี กับการสร้างตัวหรือเข้ามาสู่วงการมองเห็นถึงโอกาสที่จะก้าวไปข้างหน้า
……………………………………